Anna Tsuchiya look.1

Tsuchiya Anna เปิดตัวในฐานะนางแบบเมื่อปี 1998 หลังจากนั้นเธอก็แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในหลายๆด้าน อาทิ การเป็นนักแสดงหรือนักดนตรี เป็นต้น ซึ่งในครั้งนี้เราได้ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอผ่านการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

── สำหรับ Anna ซังมีผู้หญิงที่ยึดเป็นต้นแบบบ้างมั้ย?

คนที่รู้สึกว่าสวยคือ Audrey Hepburn ชอบตรงที่เค้ามีใบหน้าดูเหมือนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ดูดีมีสไตล์เหมาะกับเสื้อผ้าแนวคลาสสิค แต่ถ้าพูดถึงในมุมของความเป็นมนุษยชาติคิดว่า Angelina Jolie เท่ห์ดีนะ

แต่เพราะว่าเค้าเป็นบุคคลที่มีความยอดเยี่ยมเป็นพิเศษแตกต่างจากเรา จึงจะมองว่าเค้าเป็นผู้หญิงที่ดูน่าสง่างามมากกว่าที่จะไปหลงใหลใฝ่ฝัน แม้ให้มองจากในมุมของผู้ชายก็ยังคงชอบผู้หญิงที่ดูเท่ห์

── ผู้หญิงแบบบไหนที่รู้สึกว่าดูงดงาม ?

สำหรับฉันทั้งคนผอมหรือคนอ้วน คนตัวเล็กหรือคนตัวใหญ่ก็รู้สึกว่าสวย คิดว่าไม่มีคำตอบในความงาม ดังนั้น คนที่สวยคือคนที่เปลี่ยนตัวเองให้ดูดีขึ้นในแบบที่เป็นตัวเอง ไม่ใช่ความงามที่เกิดจากการเปลี่ยนตัวเองไปตามบุคคลที่ใฝ่ฝัน

── สำหรับ Anna ซัง มีเคล็ดลับอะไรในการดูแลรักษาความงาม ?

ฉันชอบทานและก็ชอบออกกำลังกายด้วย ถ้าผอมเกินไปก็ดูไม่เหมาะ เลยคิดว่ารูปร่างแบบที่ดูสุขภาพดีน่าจะเหมาะกับตัวเอง แต่ถ้าอ้วนเกินไปก็ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถทานเค้กได้ทุกวัน (หัวเราะ) หากรักษาสไตล์ที่ไม่ต้องอดทนจนเกินไปแต่ก็ให้อยู่ในขอบเขต เชื่อว่าทุกคนจะสามารถมีความงามในแบบของตัวเองได้

── ช่วยบอกให้ฟังถึงเป้าหมายหรือวิสัยทัศน์ด้านงานให้ฟังหน่อย

โดยพื้นฐานแล้วด้วยน้ำเสียงและด้วยนิสัยแบบนี้จะมีบทผู้หญิงแกร่งเข้ามา แต่มีความใฝ่ฝันว่าอยากลองเล่นบทเจ้าหญิงดูนะ (หัวเราะ) สำหรับด้านเพลงอยากจะไปร้องเพลงต่อหน้าแขกทุกๆท่านในต่างประเทศนะ

แต่เป้าหมายอันดับแรกคือ ความสามารถในการดำเนินงานนี้ต่อไปได้ถึงจุดไหน ต่อจากนี้ก็อยากทำงานดนตรีหรืองานนางแบบไปอีกนานๆ

── อยากร้องเพลงในสถานที่ไหนมากที่สุด ?

เพราะได้ยินว่าประเทศอเมริกามีการประเมินที่เป็นจริงมาก จึงอยากลองท้าทายดู อยากลองท้าทายแล้วค่อยถอยออกมา บอกว่า “มันไม่รอดอะ！” (หัวเราะ)

และที่แอฟริกาก็ดี เอาเครื่องดนตรีไปวางหน้าเด็กๆ แล้วก็บรรเลงเพลงด้วยกัน เพราะคิดว่าพวกเค้าจะสนุกสนานได้อย่างบริสุทธิ์เพียงแค่ช่วงเวลานั้นเท่านั้น จึงอยากจะเล่นดนตรีต่อหน้าเหล่าผู้คนที่จะมองดูเราด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์แบบนั้น

── พอได้พูดคุยกับ Anna ซังแล้วได้รับพลังบวกสุดๆ！

เนกาทีฟสุดๆนะ (หัวเราะ) โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนเนกาทีฟ คิดมากอย่างรุนแรง แต่เพราะรู้ถึงความทรมานในช่วงเวลาที่เนกาทีฟ จึงได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของบุคลิกภาพในแบบโพสิทีฟ

── เวลาที่เนกาทีฟ จะมีสภาพแบบไหน ?

จุดเทียน ฟังเพลงที่หดหู่ แล้วก็รู้สึกว่า “เฮ้อ เศร้าจัง…” อย่างเมื่อวานดูราพันเซลแล้วก็ร้องไห้ เลยตื่นประมาณ 11 โมงเช้า (ยิ้ม) และเรื่องไลอ้อน คิงก็ร้องไห้เหมือนกัน！

แต่พื้นฐานแล้วจะสดใส ชอบผู้คน ทั้งดนตรีหรือที่สถานที่ถ่ายทำก็รู้สึกสนุกดีกว่าใช่มั้ย เพียงแค่รู้สึกอยากใช้เวลาให้สนุกสนานก็เท่านั้น

── หากให้ลองวิเคราะห์ตัวเอง คิดว่าตัวเองมีนิสัยแบบไหน ?

คิดว่าน่ารำคาญสุดๆ (หัวเราะ) เพราะว่าจะคิดเรื่องต่างๆอยู่เสมอ คนรอบข้างน่าจะมองว่าเรายุ่งยากนะ แล้วก็ซับซ้อนด้วย คิดว่าเป็นคนที่มีทั้งอารมณ์โกรธและอารมณ์ดีใจปนกันมั่วไปหมด

── ช่วยบอกมุมที่คาดไม่ถึงของ Anna ซังคนนั้นในฟังหน่อย

ชอบผู้หญิงสไตล์โชวะ (หัวเราะ) ตอนนี้ตัวเองทำงานด้วยเลยอาจเป็นได้ไม่ 100％ แต่ก็มีความคิดแบบสมัยโชวะที่ว่าผู้หญิงต้องทำงานบ้าน ส่วนผู้ชายก็ออกไปทำงานข้างนอก แต่ก็มีผู้หญิงที่ “ไม่ทำอาหารและงานบ้านเลยอย่างสิ้นเชิง” คิดว่านั่นก็เป็นสไตล์ของคนๆนั้น ก็ไม่ได้คิดว่าผิดอะไร

แต่ตอนนี้ก็อยากได้รับความช่วยเหลือบ้าง แม้จะมีความคิดแบบเก่า แต่ของหนักผู้ชายก็ควรถือ การไปทิ้งขยะหรือการอุ้มลูกก็ควรเป็นผู้ชาย เพราะว่าหนัก (ยิ้ม) แต่เรื่องอาหารคิดว่าเป็นงานของผู้หญิง เป็นคนแปลกๆใช่มั้ย

── ปี 2016 เป็นปีแบบไหนสำหรับ Anna ซัง ?

หากมองย้อนไป มีเรื่องราวที่ต้องใช้ความอดทนอยู่มากมาย ก็คงเป็นช่วงเวลาแห่งความอดกลั้นนะ แต่พอมันจบลงทุกคนก็สามารถยิ้มและบอกว่า “มันโอเคนะ” (ยิ้ม)

→ LOOK.2 ในเดือนหน้าเราจะพูดคุยเกี่ยวกับแฟชั่นและล้วงลึกถึงตัวตนที่แท้จริงของ Anna ซังในฐานะผู้เป็นแม่กัน！